ReutersReuters

USA:โพลล์คาดดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอีก 8.5% ก่อนสิ้นปีหน้า

นิวยอร์ค--27 พ.ย.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้น, นักวิเคราะห์, โบรกเกอร์ และผู้จัดการพอร์ตลงทุนเป็นจำนวนรวมกัน 48 รายในวันที่ 15-26 พ.ย. และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาเมื่อวานนี้ โดยผลสำรวจคาดว่า ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะปิดตลาดสิ้นปี 2025 ที่ระดับ 6,500 ซึ่งเท่ากับว่าดัชนีอาจจะพุ่งขึ้นอีกราว 8.5% จากระดับปิดวันจันทร์ที่ 5,987.37 โดยตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5,900 ที่เคยคาดไว้ในโพลล์เดือนส.ค. ทั้งนี้ โพลล์คาดว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะปิดตลาดสิ้นปี 2025 ที่ 46,600 หรือเท่ากับว่าดัชนีอาจจะทะยานขึ้นอีก 4.17% จากระดับปิดวันจันทร์ที่ 44,736.57

  • ตลาดห้นสหรัฐอาจจะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), นโยบายปรับลดกฎระเบียบของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลกำไรภาคเอกชน โดยนักยุทธศาสตร์การลงทุนบางรายระบุว่า หุ้นกลุ่มการเงินถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่น่าลงทุนมากที่สุดในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายปรับลดกฎระเบียบของนายทรัมป์ นอกจากนี้ นักลงทุนบางรายยังคาดการณ์อีกด้วยว่า มาตรการปรับลดภาษีเงินได้และมาตรการปรับลดกฎระเบียบของนายทรัมป์จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นตามไปด้วย

  • ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมาแล้วราว 26% จากช่วงต้นปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นบริษัทขนาดยักษ์ของสหรัฐท่ามกลางกระแสการแข่งขันในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทเอ็นวิเดียและบริษัทไมโครซอฟท์ ทั้งนี้ นายเดวิด คอสติน หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นสหรัฐของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ในรายงานแนวโน้มหุ้นปี 2025 ว่า หุ้นกลุ่ม "Magnificent 7" สำหรับบริษัทขนาดยักษ์ 7 แห่งของสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโดยรวมในปีหน้า แต่ด้วยส่วนต่างที่หดแคบลงจากเดิมเป็นอย่างมาก โดยบริษัทกลุ่ม "Magnificent 7" นี้ประกอบด้วย บริษัทแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอลฟาเบท, อะเมซอนดอทคอม, เอ็นวิเดีย, เมตา แพลตฟอร์มส์ และเทสลา นอกจากนี้ นายคอสตินยังคาดการณ์อีกด้วยว่า การเติบโตของผลกำไรภาคเอกชนจะช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ให้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 6,500 ก่อนสิ้นปีหน้า

  • นักวิเคราะห์คาดว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 อาจจะพุ่งขึ้น 14.2% ในปี 2025 หลังจากทะยานขึ้น 10.2% ในปีนี้ ทางด้านค่าพีอีเรโชของบริษัทในดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 22.6 เท่าของคาดการณ์ผลกำไรในปัจจุบัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ระดับราว 18 เท่าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี แมรี แอนน์ บาร์เทลส์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทแซงชัวรี เวลธ์ระบุว่า "เราไม่กังวลกับมูลค่าหุ้น" เพราะว่าผลกำไรและเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโต และเพราะว่าธุรกิจสหรัฐอาจจะได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ของนายทรัมป์ ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงกังวลกับความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะดีดสูงขึ้น เพราะว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้มากนัก โดยนายทรัมป์เพิ่งประกาศในวันจันทร์ว่า เขาจะเก็บภาษีนำเข้า 25% จากสินค้าทั้งหมดที่มาจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และจะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 10% จากสินค้าจีน นอกจากนี้ นักลงทุนก็กังวลกับภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย

  • เมื่อได้รับคำถามว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงอย่างน้อย 10% ในช่วงต้นปีหน้าหรือไม่ ผู้ตอบโพลล์ 8 จาก 17 ราย หรือ 47% ของโพลล์ก็ตอบว่า มีแนวโน้มสูง, ผู้ตอบโพลล์ 2 รายตอบว่า มีแนวโน้มสูงมาก, ผู้ตอบโพลล์ 6 รายตอบว่ามีความเป็นไปได้น้อย และผู้ตอบโพลล์ที่เหลืออีก 1 รายตอบว่า มีความเป็นไปได้น้อยมาก ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นมาแล้วราว 35% จากช่วงต้นปีนี้ และถือเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มใหญ่ที่ทะยานขึ้นมากที่สุดในปีนี้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการคาดการณ์ที่ว่า กิจกรรมการควบรวมกิจการจะพุ่งสูงขึ้น ทางด้านดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐทะยานขึ้นมาแล้ว 33% จากช่วงต้นปีนี้--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

Login or create a forever free account to read this news

More news from Reuters

More news