AstraZeneca PLCLong
AstraZeneca กระตุ้นวัคซีนสามารถต่อต้านโอไมครอน
สารกระตุ้นวัคซีน AstraZeneca ต่อต้านโอไมครอน ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการของ Oxford พบ
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
บริษัทยากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี โดยอ้างข้อมูลจากการศึกษาในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด
ผลการศึกษาซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ตรงกับผลการวิจัยจากคู่แข่งอย่าง Pfizer-BioNTech และ Moderna ซึ่งพบว่าปริมาณครั้งที่สามของการฉีดต่อต้านโอไมครอน
การศึกษาวัคซีน Vaxzevria ของ AstraZeneca แสดงให้เห็นว่าหลังจากฉีด 3 ครั้ง ระดับการทำให้เป็นกลางต่อโอไมครอนนั้นใกล้เคียงกันอย่างมากกับระดับที่ต่อต้านตัวแปรเดลต้าของไวรัสหลังจากให้สองโดส
บริษัทที่จดทะเบียนในลอนดอนกล่าวว่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดที่ทำการศึกษานี้เป็นอิสระจากผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับวัคซีนกับแอสตร้าเซเนกา
Mene Pangalos หัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาชีวเภสัชภัณฑ์ของ AstraZeneca กล่าวว่า "เมื่อเราเข้าใจถึง omicron มากขึ้น เราจะพบว่าการตอบสนองของ T-cell ให้การป้องกันที่คงทนต่อโรคร้ายแรงและการรักษาในโรงพยาบาล" ต่อสู้กับการติดเชื้อ
การคาดหวังในครั้งนี้?
ผู้ผลิตยาแองโกล-สวีเดน ระบุว่า ระดับแอนติบอดีที่ต้านโอไมครอนหลังการฉีดบูสเตอร์สูงกว่าแอนติบอดีในผู้ที่ติดเชื้อและฟื้นตัวตามธรรมชาติจากไวรัสโคโรนา
แม้ว่าข้อมูลในช่วงแรกจะส่งผลดีต่อบริษัท แต่แอสตร้าเซเนกากล่าวเมื่อวันอังคารว่ากำลังทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดซึ่งเป็นพันธมิตรในการผลิตวัคซีนสำหรับโอไมครอนโดยเฉพาะ โดยร่วมมือกับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ
การศึกษาของอ็อกซ์ฟอร์ดวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ที่ได้รับวัคซีนสองโด๊สและยากระตุ้น 1 เข็ม และกลุ่มตัวอย่างที่เคยติดเชื้อด้วยความกังวลอื่น ๆ รวมตัวอย่างจาก 41 คนที่ได้รับ Vaxzevria สามครั้ง
การวิเคราะห์ของราคา
ปัจจัยนี้อาจจะทำให้หุ้นของ AstraZeneca มีความผันผวนจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญแรกที่ 8626.94 ดอลล่าร์ต่อหุ้นขึ้นไปได้อาจจะไปถึงแนวต้านที่สองก็คือ 8718.13 ดอลล่าร์ต่อหุ้นและแนวต้านสุดท้ายก็คือ 8781.52 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 8535.19 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 8487.0 6.02 ดอลล่าร์หุ้นแนวรับสุดท้ายก็คือ 8420.88 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
บริษัทยากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี โดยอ้างข้อมูลจากการศึกษาในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด
ผลการศึกษาซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ตรงกับผลการวิจัยจากคู่แข่งอย่าง Pfizer-BioNTech และ Moderna ซึ่งพบว่าปริมาณครั้งที่สามของการฉีดต่อต้านโอไมครอน
การศึกษาวัคซีน Vaxzevria ของ AstraZeneca แสดงให้เห็นว่าหลังจากฉีด 3 ครั้ง ระดับการทำให้เป็นกลางต่อโอไมครอนนั้นใกล้เคียงกันอย่างมากกับระดับที่ต่อต้านตัวแปรเดลต้าของไวรัสหลังจากให้สองโดส
บริษัทที่จดทะเบียนในลอนดอนกล่าวว่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดที่ทำการศึกษานี้เป็นอิสระจากผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับวัคซีนกับแอสตร้าเซเนกา
Mene Pangalos หัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาชีวเภสัชภัณฑ์ของ AstraZeneca กล่าวว่า "เมื่อเราเข้าใจถึง omicron มากขึ้น เราจะพบว่าการตอบสนองของ T-cell ให้การป้องกันที่คงทนต่อโรคร้ายแรงและการรักษาในโรงพยาบาล" ต่อสู้กับการติดเชื้อ
การคาดหวังในครั้งนี้?
ผู้ผลิตยาแองโกล-สวีเดน ระบุว่า ระดับแอนติบอดีที่ต้านโอไมครอนหลังการฉีดบูสเตอร์สูงกว่าแอนติบอดีในผู้ที่ติดเชื้อและฟื้นตัวตามธรรมชาติจากไวรัสโคโรนา
แม้ว่าข้อมูลในช่วงแรกจะส่งผลดีต่อบริษัท แต่แอสตร้าเซเนกากล่าวเมื่อวันอังคารว่ากำลังทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดซึ่งเป็นพันธมิตรในการผลิตวัคซีนสำหรับโอไมครอนโดยเฉพาะ โดยร่วมมือกับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ
การศึกษาของอ็อกซ์ฟอร์ดวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ที่ได้รับวัคซีนสองโด๊สและยากระตุ้น 1 เข็ม และกลุ่มตัวอย่างที่เคยติดเชื้อด้วยความกังวลอื่น ๆ รวมตัวอย่างจาก 41 คนที่ได้รับ Vaxzevria สามครั้ง
การวิเคราะห์ของราคา
ปัจจัยนี้อาจจะทำให้หุ้นของ AstraZeneca มีความผันผวนจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญแรกที่ 8626.94 ดอลล่าร์ต่อหุ้นขึ้นไปได้อาจจะไปถึงแนวต้านที่สองก็คือ 8718.13 ดอลล่าร์ต่อหุ้นและแนวต้านสุดท้ายก็คือ 8781.52 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 8535.19 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 8487.0 6.02 ดอลล่าร์หุ้นแนวรับสุดท้ายก็คือ 8420.88 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
Disclaimer
The information and publications are not meant to be, and do not constitute, financial, investment, trading, or other types of advice or recommendations supplied or endorsed by TradingView. Read more in the Terms of Use.